Last updated: 2020-11-28 | 715 จำนวนผู้เข้าชม |
PRP Youthful คือ การนำเลือดมาสกัดโดยการปั่นเพื่อแยกเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นและสมบูรณ์กว่าเกล็ดเลือดปกติ 7-9เท่าออกมาเกล็ดเลือดเข้มข้นนี้เรียกว่า Platelet-rich plasma (PRP) จากนั้นใช้เทนนิคทอร์นาโด(เป็นเทคนิคที่ทำให้ได้เกล็ดเลือดเข้มข้นโดยไม่มีส่วนของเลือดปน)ดูดตัวเกล็ดเลือดขึ้นมา แล้วนำกลับมาฉีดกระตุ้น เสริมสร้างและซ่อมแซม กระตุ้นการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ผิวหนัง กระดูก คอลลาเจน ในส่วนที่มีปัญหา
ช่วยอะไร
เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังจะเกิดการเสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น มีโพรงใต้ผิวหนัง การฉีดเกล็ดเลือดเข้าไปในใต้ผิวหนังจะทำหน้าที่กระตุ้ยการสร้าง collagen และ Hyaluronic Acid ในผิวหนัง เพิ่มเนื้อเยื่อและเส้นใยใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้มีความยืดหยุ่น กระตุ้นการซ่อมแซมลึกถึงระดับกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูก ทำให้คงไว้ซึ่งโครงสร้างของใบหน้าที่อ่อนเยาว์ เติมเต็มและยกผิวที่เป็นโพรงที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย หลุม และเม็ดสี
เนื่องจากการรักษาด้วยPRPคือการนำเลือดของตัวเองมาสกัดแยกเกล็ดเลือดแล้วฉีดเข้าไปในการรักษา ทำให้ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือแพ้จากการฉีด มีเพียงอาการบวมเหล็กน้อย ดังนั้นวิธีการนี้จึงความปลอดภัยมีค่อนข้างมาก
จุดเด่นของ PRP ที่อะตอมคลินิก
เหมาะกับใคร
• ผู้ที่ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นน้อย เนื่องจาก Collagen และ Elastin ลดลง
• ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
• ผิวมีรอยเหี่ยว เล็กน้อย ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าในบริเวณหางตา หน้าผาก ลำคอ
• ปัญหา รอยสิว ปัญหา ผิวหน้าแห้ง ปัญหามีรอยหลุม ลึก บนใบหน้า
ทำบ่อยแค่ไหน
ในช่วงแรกให้ทำ 2 สัปดาห์ ต่อครั้ง ติดต่อกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้น ให้ทำเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยจะสามารถอยู่ได้นาน1ปีถึง1ปีครึ่งแต่อย่างไรก็ดีระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
การเตรียมตัวของคนไข้
• ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ
• เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรได้รับวิตามินซี 1 อาทิตย์ ก่อนการทำหัตถการ
• งดทานยา กลุ่ม ASA หรือ NSIAD ก่อน ทำ 2-3 วัน
• งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
ข้อควรระวังต่าง ๆ
• มีภาวะเก็ดเลือดต่ำ โลหิตจาง
• มีภาวการณ์ติดผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ และโรคทางผิวหนังอื่น ๆ
• มีภาวะในโรค SLE รูมาตอยย์ โรคเก๊าท์
• กินยาต้านเกล็ดเลือด (ต้านการแข็งตัวของเลือด)
• ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย chemotherapy และ steroid
• ผู้ที่ได้รับ anticoagulation, aspirin หรือ ได้รับ anti-platelet อื่น ๆ
• ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบเลือดและเกร็ดเลือด
• ผู้ที่เป็นโรคตับ ผู้ที่มีโรคทางภูมิคุ้มกันต่อตนเอง (autoimmune)
• ผู้ที่รับประทานวิตามินอี หรือสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว
การปฎิบัติตัวหลังทำ
• หลีกเลี่ยงการล้างหน้าภายใน 4-5 ชั่วโมงหลังการรักษา
• หลังทำแล้ว แนะนำให้พักใบหน้างดการแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วัน แต่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
• ทิ้ง Plasma บนใบหน้าได้ทั้งคืน
• ทาครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ได้ตามปรกติ
• ควรใช้ยาลดปวดกลุ่ม พาราเซตามอล
• บางคนอาจบวมได้ 2-3 วัน มีรอยเข็มหรือช้ำเล็กน้อย
• หลีกเหลี่ยงการทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA หรือสาร Whitening อื่นๆ
• เหลี่ยงการทำกิจกรรม การโดนแดด 2-3 วัน
• หลีกเหลี่ยงการทาน Ibuprofen and Aspirin 2-3 วัน
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และออกกำลังกายอย่างหนัก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
• อาการบวมจะอยู่ประมาณ 2-3วันและจะหายไปได้เอง
• รอยเขียวเนื่องจากการฉีด
ไปดูรีวิว ก่อน -หลัง รับบริการ
ราคา
จะอยู่ที่ครั้งละ 7,500 บาท คอร์ส 3 ครั้ง เพียง 20,250 บาท
Dec 01, 2017
Dec 01, 2017
Oct 01, 2019