สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น สิวเกิดขึ้นเมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป จนไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิว
สิวมีหลายประเภท ได้แก่ สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวอักเสบ สิวหัวช้าง และสิวซีตส์ สิวแต่ละประเภทมีลักษณะและอาการที่แตกต่างกันไป
สิวสามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของสิว วิธีรักษาสิวที่พบบ่อย ได้แก่ การกดสิว, การมาส์ก, การฉีดสิว, การทำเลเซอร์, การใช้ยาแต้มสิว, การใช้ยารับประทาน
สารสกัดจากธรรมชาติ ผสมกรดผลไม้ ช่วยลดสิวอุดตัน ผลัดเซลล์ผิว ลดขนาดคอมีโดน ช่วยทำให้หัวสิวหลวมตัว กดออกได้ง่ายขึ้น
การกดสิวเป็นการทำให้สิวอุดตันหลุดออกไป การกดสิวออกอย่างถูกวิธีจะทำให้สิวอุดตันหายได้เร็วขึ้น ซึ่งจะลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบ ผิวก็จะเรียบเนียนขึ้น ส่วนสิวอักเสบคุณหมอจะทำการฉีดเพื่อลดการอักเสบ
มาส์กเฉพาะที่อะตอมคลินิก ช่วยฆ่าเชื้อสิว ลดการเกิดสิวใหม่ พร้อมจัดการสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า ช่วยลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน ลดรอยแดงที่เกิดจากการกดสิวใหม่ ผ่อนคลายสบายผิวหน้า
IPL ( Intense Pulsed Light ) เป็นพลังงานแสงความเข้มสูง ลักษณะคล้ายแสงแฟลช นำมาใช้ในการกระตุ้น การสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ใต้ผิวหนัง และรักษารอย รวมถึงทำลายเซลล์ผิวหนังเก่า ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย โดยไม่ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
Aurora เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานแสงความเข้มสูง (Intense pulsed light หรือ IPL) ร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency หรือ RF) รักษาสิวและรอย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทำให้ผิวหน้าสะอาด ไร้ความมันส่วนเกิน ลดสิวอุดตันตามรูขุมขน ขนคุด หากใช้คู่กับแสงสีแดง จะช่วยเร่งให้การผลัดเซลผิว ลดเลือนรอยสิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดฝ้า กระ ปรับสีผิว ไร้จุดด่างดำ เร่งให้เซลล์ทำงานเพื่อผลัดเซลผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส คืนผิวสวยอ่อนเยาว์ไร้ตำหนิอีกครั้ง
สิวเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว ซึ่งสิวมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปแล้ว สิวที่เหมาะกับการกด ได้แก่
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่สิวทุกประเภทที่เหมาะกับการกด โดยสิวที่ไม่ควรพยายามกดด้วยตัวเอง ได้แก่
หากมีสิวประเภทดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
สิวเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกินในต่อมไขมัน จนกลายเป็นสิวอุดตันและอักเสบได้ง่าย การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่นิยมทำกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะสิวอุดตันและสิวหัวหนอง ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบและทำให้สิวยุบตัวลงได้อย่างรวดเร็ว
การกดสิวมีข้อดีอย่างไร
ช่วยลดการอักเสบของสิวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสิวอักเสบที่มีหนองอยู่ด้านใน การกดสิวจะช่วยระบายหนองออก ทำให้สิวยุบตัวลงและลดอาการปวดบวมได้
การกดสิวมีข้อเสียอย่างไร
หากกดสิวไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ โดยเฉพาะการกดสิวที่อักเสบอยู่แล้ว หรือการกดสิวด้วยมือที่ไม่สะอาด
ข้อควรระวังในการกดสิว
ไม่ควรพยายามกดสิวด้วยตัวเอง หากไม่มั่นใจว่าสามารถทำได้อย่างถูกวิธี ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
**การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่ได้ผลดี แต่ก็ต้องทำอย่างถูกวิธีและระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็นและการติดเชื้อ หากไม่มั่นใจว่าสามารถกดสิวได้อย่างถูกวิธี ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง**
สิวอักเสบเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อสิวอุดตัน (สิวหัวขาวและสิวหัวดำ) ติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง และเจ็บปวด สิวอักเสบมักพบบริเวณใบหน้า หน้าอก หลัง และไหล่
สิวอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
สิวอักเสบสามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว แพทย์ผิวหนังอาจแนะนำให้ใช้ยาทาเฉพาะที่หรือยารับประทานเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดสิวเพื่อช่วยให้สิวอักเสบยุบตัวลงได้เร็วขึ้น
หากคุณมีสิวอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น สิวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด และการอุดตันของรูขุมขน สิวสามารถทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลังได้ เช่น รอยดำและหลุมสิว ซึ่งอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง
รอยดำจากสิวเกิดขึ้นเมื่อสิวอักเสบและเกิดการอักเสบ รอยดำมักจะจางหายไปเองภายในไม่กี่เดือน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้นหรือไม่จางหายไปเลย รอยดำจากสิวสามารถรักษาได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก หรือไฮโดรควิโนน
หลุมสิวเกิดขึ้นเมื่อสิวอักเสบรุนแรงและทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง หลุมสิวสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้เลเซอร์ การกรอผิว และการฉีดฟิลเลอร์
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันรอยดำและหลุมสิวคือการรักษาสิวให้หายตั้งแต่เนิ่นๆ หลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิวเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นแผลเป็นได้ นอกจากนี้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
**หากคุณมีรอยดำหรือหลุมสิวที่ทำให้คุณไม่มั่นใจ คุณสามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม**
การรักษาสิวอาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวควรอดทนและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด นอกจากการรักษาสิวด้วยวิธีต่างๆ แล้ว ผู้ที่เป็นสิวยังควรดูแลผิวหน้าและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น
การดูแลผิวหน้าและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว จะช่วยลดการเกิดสิวและช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น